นิยายนิยายเป็นยังไง?

นิยายนิยายเป็นยังไง?


นิยายรักนิยายเป็นอย่างไร? แล้วมีกี่ประเภท?ก่อนที่จะแต่งนิยายพวกเราก็มาดูกันหน่อย ว่านิยายมันคืออะไร แล้วที่พวกเรารู้เรื่องอยู่ทุกวันมันถูกรึเปล่า มาริ่มกันเลยค่ะตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พุทธศักราช 2525 บอกความหมายของนิยายไว้ว่า หมายความว่าเรื่องที่เล่าต่อกันมา คือความไม่แน่นอนไหมใช่เรื่องจริงทั้งหมดทั้งปวง มีการแต่งเติมเสริมต่อบางตอนเรื่องราวนั้นจะต่างไปจากชีวิตจริง ตัวอย่างเช่น เกิดเป็น ลูกสัตว์แล้วมาใช้เวทย์มนต์คาถาให้เปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้ในคราวหลัง ฯลฯหรือที่คนอีกหลายคนรู้เรื่องว่ามันคือหนังสือที่ไม่มีภาพมีแต่ตัวอักษรจากความหมายของนิทาน ตำนาน นิยาย ดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่ามีความคล้ายกัน กระทั่งบางครั้งแยกกันไม่ออกรวมทั้งมีนิคุณยาย ตำนาน นิทานพื้นบ้านอยู่เยอะแยะ ในปัจจุบันพวกเราใช้คำว่านิคุณยายเพื่อเรียกเรื่องราวที่มีผู้ประพันธ์ขึ้น บางทีอาจจะอิงหลักเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม นิยายมีหลากหลายประเภทแบ่งได้เป็น 2 พวกใหญ่ๆเป็น

1.Fection คือ นิยายพวกที่เป็นเรื่องแต่งขึ้น

2.non Fection เป็นนิยายพวกที่เกิดขึ้นจริงสามารถยังแบ่งเป็นหมวดย่อยได้อีกโดยประมาณ 7 ชนิดสำคัญๆ

1. นิยายรัก ( Romance fiction) เป็นนิยายที่เน้นย้ำความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเป็นแกนกลางของเรื่อง จะเน้นความรู้สึกของนักแสดงเป็นหลัก นิยายแนวนี้เป็นที่ชื่นชอบมากในตลาดและก็พล็อตเกี่ยวกับความรักนี้ก็เกือบจะแทรกเข้าไปในนิยายทุกชนิดแล้วก็ยังแบ่งออกเป็นหมวดย่อยอีก ตัวอย่างเช่น

1.1 Romantic Drama - นิยายรักแบบซ่อนเร้นแนวชีวิต ปรัชญา เสมือนชีวิตมนุษย์เดินดินทั่วๆไป ดารานำชายนางเอกอาจมีรักโลภโกรธหลง

1.2 Romantic Comedy - นิยายแนวรักแอบแฝงความเฮฮา รายละเอียดมุ่งเครียดลดลงลงไป ยกตัวอย่างเช่นผู้แสดงนำชายซุ่มซ่ามๆฮาๆ

1.3 Romantic Period - นิยายรักย้อนยุคทั้งหลายแหล่ไม่ว่าจะเป็นแนวไทย จีน ญี่ปุ่นเรื่องราวความรักของคนในโบราณกาลกาลก่อนหน้าที่ผ่านมาแล้ว

1.4 Romantic Paranormol - นิยายรักผ่านภพทั้งหลายแหล่ หรือนิยายรักผีๆวิญญาณ

1.5 Romance - นิยายรักประเภทเจ้าหญิงเจ้าชาย (เน่าๆหน่อยอ่ะนะ)

2. นิยายลึกลับ ( Mystery fiction) จะเน้นการสอบปากคำสอบสวน มีการคลายปมปัญหาเป็นหลัก (ซึ่งถือเป็นแนวหนึ่งที่แต่งยากมากมาย)

3. นิยายสยองขวัญ ( http://albadia.tv ) เป็นนิยายเกี่ยวกับอสูรกาย ปีศาจ สัตว์ร้าย ที่พอเวลานักอ่านได้อ่านแล้ว จะกำเนิดความสยดสยอง รังเกียจในความน่าขนลุก

4. นิยายวิทยาศาสตร์ ( Sciences fiction ) เป็นการนำวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาเป็นแกนกลางสำหรับการสร้างเรื่อง อย่างเช่นการทำลองวิจัย การโคลนนิ่งมนุษย์ นิยายแนวนี้จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในเรื่อง นั้นๆถึงจะสามารถแต่งได้ ผู้เขียนต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี (ซึ่งถือเป็นแนวหนึ่งที่แต่งโครตยาก -.,-)

5. นิยายมหัศจรรย์หรือนิยายแฟนตาซี ( Fantasy fiction) จะมีการใช้เทพต่างๆมาใช้เพื่อสำหรับการสร้างเรื่อง และก็เรื่องที่เกิดความเชื่อถือ ปาฏิหาริย์ ตำนวน เรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ นิยายแนวนี้ชอบมีการประสมประสานระกว่างความอัศจรรย์กับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน จนถึงกลายเป็นนิยายชนิด sciences fantasy ขึ้นมา

6. นวนิยายแนวกามารมณ์ ( Erotica fiction) เป็นนิยายที่เน้นย้ำอารมณ์และความรู้สึก ซึบดูดซึมไปกับการบรรยายที่เป็นธรรมชาติ แล้วก็เขียนถึงฉากกามารมณ์มากเป็นพิเศษในเรื่อง

7. นิยายที่สะท้อนปัญหาสังคม เป็นนิยายที่เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาของสังคม สอดแทรกคติธรรมเข้ามา ให้ความเห็นของตัวละครลง ไม่มีความจำเป็นต้องบอกทางแก้ อยู่ที่ว่านักเขียนบางครั้งก็อาจจะใส่ทางแก้ของปัญหาลงไปไหม

อ่านนิยายออนไลน์ให้ประโยชน์มากยิ่งกว่าที่คุณคิดคนไหนกล่าวว่าแหล่งวิชาความรู้ชั้นเยี่ยมจะต้องหาอ่านจากในตำราเรียนแค่นั้น ตอนนี้โลกปรับปรุงไปไกลแล้ว จะอ่านหนังสือชนิดไหนก็ได้ความรู้ทั้งนั้นแม้เรารู้จักเลือก รวมทั้งเดี๋ยวนี้คนนิยมหาความรู้จากอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น แหล่งความรู้จึงมีอยู่ทั่วๆไปหมด ถึงแม้ว่าจะการอ่านนิยายออนไลน์ที่คนจำนวนไม่น้อยพูดว่าให้แต่ความสนุกสนานร่าเริง แต่ทว่าโดยความเป็นจริงแล้วมันกลับให้ประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด วันนี้เราจึงรวบรวมจุดเด่นเหล่านั้นมาฝากกันจ้ะ

1. ฝึกนิสัยรักการอ่าน จะต้องยอมรับว่าการอ่านนิยายช่วยทำให้คนไม่ใช่น้อยมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้น แล้วก็มันยังช่วยทำให้พวกเราหันไปอ่านหนังสือประเภทอื่นๆอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากคนไหนกันแน่มีคนใกล้ตัวที่เกลียดอ่านหนังสือเลย ทดลองชี้แนะให้เขาเริ่มอ่านนิยายออนไลน์บันเทิงใจๆสักเรื่องมองสิจ้ะ ยืนยันช่วยได้แน่นอน

2. ช่วยฝึกฝนสมาธิให้เข้มแข็งขึ้นการอ่านนิยายทำให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งช่วยในเรื่องการจ้องดูสมาธิรวมทั้งลับสมองไปด้วย ทำให้เรามีสมาธิทำสิ่งต่างๆได้ดิบได้ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้พวกเราหลบลี้ความโกลาหลจากโลกด้านนอกได้อีกด้วย

3. ช่วยสร้างจินตนาการให้กว้างเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าการอ่านจะช่วยเสริมสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้กับสมอง โดยเหตุนั้น การอ่านนิยายเป็นประจำก็เลยมีส่วนช่วยฝึกหัดจินตนาการให้พวกเราได้มาก แถมจินตนาการของพวกเราจากการอ่านนิยายหัวข้อนั้นอาจไม่เหมือนใครด้วยนะ ไม่เชื่อก็ลองเปลี่ยนความนึกคิดต่อตัวละครในนิยายกับเพื่อนฝูงที่อ่านเรื่องเดียวกันดูสิ รับประกันว่าคุณจึงควรประหลาดใจ เพราะจินตนาการของคุณกับเพื่อนฝูงบางทีอาจแตกต่างกันอย่างน่าเหลือเชื่อเชียวล่ะ

4. เป็นแหล่งฝึกฝนการวิเคราะห์ชั้นดีนิยายหลายเรื่องที่พวกเราได้อ่านนั้น มักจะมีเงื่อนหรือความลับอะไรบางอย่างซ่อนไว้ให้เหล่าคนอ่านได้ลุ้นแล้วก็ร่วมค้นหาความลับ ยิ่งเราอ่านนิยายหลายเรื่องเท่าไหร่ เราก็จะเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆรวมทั้งสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้เองเสมือนว่าเป็นสายลับเลยล่ะ

5. ช่วยฝึกหัดสำนวนภาษาถ้าลองพินิจดีๆเราจะพบว่ายิ่งอ่านนิยายเยอะแยะ พวกเราก็ยิ่งเก่งภาษาไทยเยอะขึ้น ทั้งการใช้สำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียน และยิ่งถ้าหากได้อ่านนิยายภาษาต่างชาติหรือนิยายแปล พวกเราก็จะได้โอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ แล้วก็สำนวนใหม่ๆได้อย่างไม่หยุดหย่อน

6. เป็นแหล่งให้ความบันเทิงเกรดเอบ่อยที่เรารู้สึกเครียดจากการเรียน การทำงาน หรือปัญหาที่พบเจอในชีวิตประจำวัน เพียงแค่ได้อ่านนิยายออนไลน์สักตอนสองตอนก็ทำให้พวกเราหายเครียดได้แล้ว แถมในขณะนี้นิยายออนไลน์ก็มีให้เลือกอ่านเยอะแยะอีกต่างหาก ที่สำคัญมีให้อ่านฟรีด้วยนะ

7. ได้เพื่อนฝูงใหม่แบบง่ายสุดๆในตอนนี้คนอ่านถูกใจรีวิวนิยายออนไลน์ที่ตนเองชื่นชอบลงใน Twitter หรือ Facebook ทำให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่นักอ่านหลายคนเข้ามาเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนิยายหัวข้อนั้นๆกัน ยิ่งไปกว่านี้หลายท่านยังได้เพื่อนใหม่จากที่นั่นอีกด้วย มองเห็นไหมจ้ะว่าการอ่านสำคัญแล้วก็มีคุณประโยชน์กับตัวเรามากแค่ไหน ด้วยเหตุดังกล่าว ไม่ว่าจะอ่านอะไร จะอยู่ในแบบอย่างออนไลน์หรือหนังสือ คุณก็สามารถกล่าวโทษทราบได้ แม้กระนั้นขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าติดอ่านนิยายออนไลน์จนกระทั่งเสียงานเสียการเชียวล่ะ

ประโยช์จากการอ่านนิยายนิยาย หรือที่คนสามัญเรียนจนคุ้นปากว่า นิยาย เป็นแบบอย่างหนึ่งของวรรณกรรมลายลักษณ์ ถูกแต่งด้วยภาษา จินตนาการแล้วถูกถ่ายทอดในรูปแบบของร้อยแก้ว บางเรื่องถูกแปลมากมายจากภาษาอื่น เป็นสถานะการณ์จริง หรืออิงความเป็นจริง เชิญชวนน่าติดตามด้วยทสนทนา และนำเสนอเรื่องจนเกิดมโนภาพให้คนอ่าน เว้นแต่ความเพลิดเพลินในแบบของหนังสือนวนิยายแล้ว ในบางเล่มถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ส่งต่อความเจริญรุ่งเรือง แล้วก็การพัฒนาของนิยายในขั้นตอนต่อไป

“นิยาย ตัวหนังสือ ที่ถักถอร้อยเรียงเรื่องราว เป็นมากกว่าตัวอักษร และก็ให้มากยิ่งกว่าความรื่นเริงใจ”

1.ฝึกฝนสมาธิ : การอ่านหนังสือทำให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับเรื่องราว ถือว่าเป็นการฝึกฝนให้เกิดสมาธิได้อย่างไม่ต้องสงสัย

2.ฝึกนิสัยรักการอ่าน การเขียนภาษาไทยให้ถูก : ทุกตัวเขียนจะต้องผ่านสายตา ด้วยเหตุนั้นแล้วการอ่านนวนิยาย เป็นการฝึกฝนการอ่านภาษาไทย สังเกตตัวสะกดที่ถูกต้อง รับรองได้ว่าวรรณยุยงกต์ทุกตัวสะกด ถูกครบสมบูรณ์อย่างแน่นอน

3.สร้างจินตนาการ : เสริมสร้างวิชาความรู้ด้านต่างๆของสังคม แนวอิงประวัติศาสตร์ เศรษฐวิทยา การเมืองการปกครองในแต่ละยุคสมัย ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของแต่ละสังคม แต่ละช่วง เปิดโลกทัศน์ รวมทั้งมุมมองใหม่ให้กับให้กับตัวคุณเอง

4.สัมผัสกับสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่มีข้อจำกัด : เรื่องราวทั้งในและนอกประเทศ บางครั้งบางคราวพวกเราอาจไม่ได้ได้โอกาสไปสัมผัสสถานที่นั้นได้จริง นวนิยายจะพาพวกเราไปสัมผัสกับสถานที่พวกนั้น ด้วยการลงทุนแบบประหยัดเยอะที่สุด แต่ว่ากลิ่นบรรยากาศถูกบันทึกในความทรงจำอย่างครบถ้วน

5.มองโลกในแง่ดี คนคิดบวกเสมอ : การเรียนรู้เรื่องราวต่างๆผ่านตัวอักษรจะมีผลให้เราเข้าใจความยุติธรรมชาติของโลกมากขึ้นเรื่อยๆ มีผลต่อระบบความนึกคิด รวมทั้งมุมมองสำหรับการดำรงชีพได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อเวลาเปลี่ยนแปลงไป ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างถูกแรงขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยี แทรกซึมกลายเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนกันกับเรื่องราวของนวนิยาย ถูกเขยื้อนให้เข้าสู่โลกดิจิตอล ส่งผลการสำรวจว่า เด็กอายุ 6-24ปี นิยมอ่านหนังสือในแบบอย่างออนไลน์เยอะขึ้น หลายเว็บก็เลยเปรียบพื้นที่กระดาษสีขาว ให้ผู้เขียนมือใหม่ได้แต่งแต้มสีสันในนิยายของตน นับได้ว่าเป็นเวทีของผู้เขียนคนใหม่ ได้มาต่อสู้วิชาได้อีกทางหนึ่ง นำมาซึ่งการทำให้ลูกค้าอย่างเราเลือกอ่านได้นานาประการแนว แต่ไม่ว่าความสะดวกของคนอ่านจะเป็นไปในลักษณะของหนังสือ หรือเทคโนโลยีอื่น เรื่องราวของนวนิยาย ก็นับได้ว่าเป็นกรุสมบัติทางปัญญาได้ด้วยเหมือนกัน แล้ววันนี้คุณมีขุมเงินขุมทองไว้ใกล้ตัวมากน้อยเพียงไ

Report Page