ดูไฮไลท์ฟุตบอล พลีมัธ 1-0 ลิเวอร์พูล เอฟเอคัพ 2024/25
ไรอัน ฮาร์ดี กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในศึกเอฟเอคัพ รอบ 4 หลังยิงจุดโทษประตูเดียวที่ช่วยให้พลีมัธ อาร์ไกล์ พลิกล็อกเอาชนะลิเวอร์พูลได้สำเร็จ ดูไฮไลท์ฟุตบอล พลีมัธ 1-0 ลิเวอร์พูล ชัยชนะครั้งนี้เป็นการปลุกกำลังใจให้กับพลีมัธ แม้จะอยู่ในช่วงฟอร์มตกในแชมเปี้ยนชิพ แต่การเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในถ้วยเอฟเอคัพ ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับสโมสร ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลต้องหันไปโฟกัสกับการแก้ไขปัญหาอาการบาดเจ็บและผลงานที่ตกลงในรายการอื่นต่อไป
ดูไฮไลท์ฟุตบอล พลีมัธ 1-0 ลิเวอร์พูล เมื่อคืนนี้
พลีมัธ อาร์ไกล์ สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 4 หลังเฉือนชนะลิเวอร์พูล 1-0 จากจุดโทษในครึ่งหลังของไรอัน ฮาร์ดี ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นทีมอันดับสุดท้ายในลีกแชมเปี้ยนชิพ แต่พลีมัธแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและระเบียบวินัยในการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลส่งทีมชุดผสมลงสนาม ซึ่งขาดประสบการณ์และความต่อเนื่องในการเล่น ทำให้พวกเขาไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับพลีมัธ นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และสร้างกำลังใจให้ทีมอย่างมาก ในขณะที่ลิเวอร์พูลต้องกลับมาทบทวนแผนการเล่นและจัดลำดับความสำคัญในรายการแข่งขันที่เหลืออยู่
การเปลี่ยนตัว 10 คนของสล็อตทำให้ลิเวอร์พูลเจอหายนะ
การตัดสินใจหมุนเวียนผู้เล่นตัวจริงถึง 10 คนของอาร์เน่ สล็อต กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อพลีมัธ อาร์ไกล์ ในศึกเอฟเอคัพ รอบ 4 ที่ผ่านมา เกมเริ่มต้นด้วยความเสียเปรียบอย่างชัดเจนสำหรับลิเวอร์พูล เมื่อโจ โกเมซ กองหลังคนสำคัญได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เกมรับของทีมขาดความสมดุล และสถานการณ์ย่ำแย่ลงเมื่อผู้เล่นสำรองไม่สามารถยกระดับเกมขึ้นมาได้ ในขณะเดียวกัน พลีมัธเลือกที่จะปล่อยให้ลิเวอร์พูลครองบอลเป็นส่วนใหญ่ พร้อมตั้งแนวรับอย่างรัดกุม ทีมเจ้าบ้านแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยในเกมรับและความมุ่งมั่นที่จะป้องกันการโจมตีจากทีมเยือนชื่อดังได้อย่างน่าทึ่ง
ดราม่าจุดโทษครึ่งแรก! พลีมัธยืนหยัดต้านลิเวอร์พูลได้สำเร็จ
เกมเอฟเอคัพระหว่างพลีมัธ อาร์ไกล์ และลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยความตึงเครียดในช่วงครึ่งแรก โดยจุดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือจังหวะที่มุสตาฟา บุนดูถูกกดดันจนล้มลงในกรอบเขตโทษจากการปะทะกับคอสตาส ซิมิคัส แต่ผู้ตัดสินปฏิเสธการให้จุดโทษ ทำให้พลีมัธพลาดโอกาสขึ้นนำในช่วงเวลาสำคัญ แม้จะไม่ได้จุดโทษ แต่พลีมัธยังคงเล่นอย่างมีระเบียบและตั้งรับอย่างเหนียวแน่น ขณะที่ลิเวอร์พูลพยายามสร้างโอกาสจากการครองบอล แต่ลูกยิงที่อันตรายที่สุดในครึ่งแรกเป็นเพียงการยิงเบี่ยงออกจากระยะของเจมส์ แม็คคอนเนลล์ ซึ่งผู้รักษาประตูของพลีมัธรับมือได้อย่างง่ายดาย
จุดโทษเปลี่ยนเกม! ไรอัน ฮาร์ดี ซัดให้พลีมัธนำลิเวอร์พูล
การแข่งขันเอฟเอคัพรอบ 4 ระหว่างพลีมัธและลิเวอร์พูลได้รับการจุดประกายในนาทีที่ 52 เมื่อพลีมัธได้จุดโทษสำคัญ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ผู้เล่นของลิเวอร์พูล พยายามบล็อกการจ่ายบอลในกรอบเขตโทษ แต่การยกแขนสูงของเขาทำให้บอลโดนแขนอย่างชัดเจน ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที ไรอัน ฮาร์ดี เดินหน้ารับความกดดันด้วยความเยือกเย็น และไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เขาส่งบอลเข้าประตูไปทางหนึ่ง ในขณะที่ควีมิน เคลเลเฮอร์ พุ่งไปอีกทาง ทำให้พลีมัธขึ้นนำ 1-0 และสร้างความได้เปรียบเหนือทีมเยือนอย่างชัดเจน
อาซาร์ ฮีโร่! พลีมัธรักษาชัยชนะเหนือลิเวอร์พูลในเกมสุดตึงเครียด
เกมรับของพลีมัธทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทุกคนช่วยกันป้องกันการโจมตีของลิเวอร์พูลที่พยายามกดดันอย่างหนักในช่วงท้ายเกม ขณะเดียวกัน คอนเนอร์ อาซาร์ ผู้รักษาประตูของทีมก็โชว์ฟอร์มสุดแกร่ง ด้วยการเซฟลูกยิงที่น่าประทับใจถึงสองครั้ง หนึ่งในนั้นคือการปฏิเสธลูกยิงของดิโอโก้ โชต้า และอีกครั้งกับลูกโหม่งในจังหวะสุดท้ายของจาเรลล์ ควนซาห์ ชัยชนะครั้งนี้เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและการเล่นเกมรับที่มีประสิทธิภาพของพลีมัธ พวกเขาสามารถรักษาสกอร์นำไว้ได้จนสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย พร้อมกับสร้างผลงานสุดประทับใจในรายการเอฟเอคัพปีนี้
ลิเวอร์พูลใน ไฮไลท์ฟุตบอล เกมนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงเงาของทีมที่เคยครองความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาพ่ายให้กับพลีมัธ ทีมที่กำลังดิ้นรนในลีกล่าง ซึ่งถือเป็นผลการแข่งขันที่สร้างความผิดหวังอย่างมาก สำหรับนักเตะรุ่นเยาว์ การพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญในเส้นทางการพัฒนาฝีเท้า แต่ในขณะเดียวกัน แฟนบอลก็อาจตั้งคำถามถึงผลงานของผู้เล่นตัวหลักที่ควรจะแสดงภาวะผู้นำและความรับผิดชอบมากกว่านี้ การล้มเหลวในเอฟเอคัพครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนสำหรับทีมที่ต้องรีบกลับมาแก้ไขก่อนที่ฤดูกาลจะหลุดมือไปมากกว่านี้