เปิดประวัติโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี จากนักเตะค่าตัว 1000 ปอนด์สู่สุดยอดนักเตะระดับโลก

เปิดประวัติโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี จากนักเตะค่าตัว 1000 ปอนด์สู่สุดยอดนักเตะระดับโลก


หลายๆ คนอาจจะยังจำกันได้ดีว่ามีนักเตะคนหนึ่งที่ได้มีชื่อติดอยู่ในว่าที่ตำแหน่งบัลลงดอร์ปี 2020 นั่นก็คือยอดกองหน้าทีมเสือใต้บาเยิร์น มิวนิค อย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าถ้าในปีนั้นไม่ได้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วล่ะก็รางวัลบัลลงดอร์ที่นักฟุตบอลทั่วโลกต่างต้องการคว้าไว้มาสักครั้งในชีวิตต้องตกเป็นเขาอย่างแน่นอน เลวานดอฟสกีได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกหลังจากได้พิสูจน์ตัวเองให้ชาวโลกได้เห็นผ่านการทำสกอร์ที่มากมาย เขาสามารถยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำไม่แพ้ลิโอเนล เมสซี่หรือคริสเตียโน่ โรนัลโด้เลย เขาทำประตูมากกว่า 30 ลูกต่อฤดูกาลในลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนีอย่างบุนเดสลีกา ตลอด 8 ปีที่บาเยิร์น มิวนิคเขาทำประตูไปแล้วมากถึง 344 ประตู นอกจากผลงานระดับสโมสรเขายังได้รับใช้ทีมชาติโปแลนด์และทำประตูไปมากถึง 75 ประตูให้กับทีมชาติจนเขาได้รับฉายาว่า “เครื่องจักรถล่มประตู”

วันเกิด 21 สิงหาคม1988

ทีมชาติ โปแลนด์

ส่วนสูง 1.85 เมตร

ตำแหน่ง กองหน้า

ทีมปัจจุบัน สโมสรบาร์เซโลนา


จุดเริ่มต้นของอาชีพนักฟุตบอล

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกีเรื่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบโดยเล่นให้กับทีมเยาวชนในย่านวาร์โซเรีย ประเทศโปแลนด์ เมื่อเขาอายุได้ 17 ปี เขาได้พบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นอย่างมากจากการสูญเสียคุณพ่อของเขาไปอย่างกะทันหัน บวกกับอาการบาดเจ็บที่รบกวนเขาอยู่ตลอด นั่นทำให้สโมสรตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกจากทีม ในช่วงเวลาที่เขาเกือบจะถอดใจจากวงการฟุตบอลก็ได้มีสโมสรหนึ่งติดต่อเขาเข้ามานั่นก็คือสโมสรซินซ์ พรัสซ์โกว์ สโมสรในลีก 3 ของโปแลนด์ เขาเซ็นสัญญามาด้วยเงินเพียง 1000 ปอนด์และได้ค่าตอบแทนเพียงสัปดาห์ละ 230 ปอนด์ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกย่อท้อเพราะเขารักในกีฬานี้เป็นอย่างมาก เขาได้ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจะพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง เพียงปีเดียวเขาก็สามารถพาทีมเลื่อนขั้นไปสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จพร้อมกับคว้าดาวซัลโวของรายการด้วยการยิงไป 12 ประตู ฤดูการต่อมาในดิวิชั่น 2 เขาก็ยังถล่มประตูไปอีก 21 ประตูและคว้าดาวซัลโวมาได้อีกครั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกีกลายมาเป็นนักเตะกองหน้าที่โด่งดังมากในประเทศโปแลนด์จนเลซ พอซแนนสโมสรยักษ์ใหญ่ของโปแลนด์จัดการคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร แม้แต่ในลีกสูงสุดของโปแลนด์เขาก็ยังคงกระหน่ำยิงประตูเข้าสู่ก้นตาข่าวและคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโวมาได้ เขาช่วยให้เลซ พอซแนนคว้าแชมป์ลีกมาได้สำเร็จในที่สุด ด้วยผลงานของเขาทำให้เป็นที่หมายปองของสโมรสรมากมายในยุโรปและทีมที่คว้าตัวเขาไปได้สำเร็จก็คือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผลบอลสด365

จากโปแลนด์สู่เยอรมนี

การย้ายมาอยู่กับสโมสรดอร์มุนด์ในประเทศเยอรมนีถือเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ช่วงเวลที่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกีอยู่ที่ดอร์ทมุนด์นี่เองที่ทำให้เขาได้รับการเจียระไนจนเปล่งประกายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการฟุตบอลโดยกุนซือมากความสามารถอย่างเจอร์เกน คล็อปป์ เขากลายมาเป็นกองหน้าที่น่าจับตามองมากที่สุดในยุโรป ผลงานที่แจ้งเกิดให้กับเขาบนเวทีโลกคือการทำประตูคนเดียวไป 4 ประตูในเกมการแข่งขันกับสโมสรยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่างเรอัล มาดริดในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกและพาทีมได้จนถึงรอบรองชนะเลิศในฤดูการ 2012/13 ในฤดูการต่อมาเขาได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตอีกครั้งด้วยการย้ายไปเล่นให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิก ยิ่งอายุมากขึ้นเขาก็ยิ่งเล่นได้เฉียบคมมากขึ้นและทำให้เขาค่อยๆ ก้าวมาสู่นักเตะระดับเวิลด์คลาสของโลกลูกหนังเทียบเท่ากับซูเปอร์สตาร์ดาวดังอย่างลิโอเนล เมสซี่หรือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในฤดูกาล 2019/20 เป็นฤดูกาลที่เขาได้โชว์ฟอร์มอย่างยอดเย่ยมจนได้รับฉายาเครื่องจักรถล่มประตูด้วยการทำประตูไปถึง 55 ประตูจากการเล่นแค่ 47 นัด เขาพาสโมสรบาเยิร์น มิวนิกคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จนั่นคือบุนเดสลีกา เดเอฟเบ โพคาลและที่สำคัญที่สุดคือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก บวกกับรางวัลส่วนตัวอย่างรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่มแห่งปีของยูฟ่า รางวัลบอลทองคำฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกและดาวซัลโวยูโรเปียนคัพและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก จากนักเตะที่ค่าตัวเพียง 1000 ปอนด์กลายมาเป็นนักเตะระดับโลกที่มีค่าตัวมหาศาลในปัจจุบัน 

ในฐานะทีมชาติโปแลนด์

ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลของประเทศโปแลนด์นั้นคงไม่มีใครที่มีความสามารถหรือศักยภาพที่เหนือชั้นไปกว่าโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี เขากลายมาเป็นนักเตะที่ดีสุดของชาติโปแลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเขารับใช้ทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2008 นับเป็น 129 นัดและเป็นดาวซัลโวสูงสุดในประวิติศาสตร์ด้วยจำนวนประตูที่มากถึง 75 ประตู ซึ่งตอนนี้เป้าหมายเดียวที่เขายังไม่สามารถทำให้กับชาติบ้านเกิดของเขาได้นั้นคือการพาทีมชาติโปแลนด์คว้าแชมป์เมเจอร์ใหญ่ๆ แต่ด้วยฟอร์มที่ยังคงดีเสมอต้นเสมอปลาย สักวันนึงเขาอาจจะสามารถพาทีมชาติโปแลนด์ไปสู่ระดับได้เพราะขึ้นชื่อว่ากีฬาฟุตบอลอะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

Report Page